Phan Dang Di

image

ประวัติและผลงาน

หลังจบการศึกษาด้านเขียนบทจาก Hanoi Academy of Theatre and Cinema ในปี 2000 Phan Dang Di ทำงานให้กับหน่วยงานด้านภาพยนตร์ของภาครัฐเป็นเวลา 6 ปี จากนั้นได้ลาออกและเริ่มต้นอาชีพผู้กำกับภาพยนตร์อิสระด้วยความมุ่งหวังที่จะก่อตั้งกลุ่มผู้กำกับหน้าใหม่ เพื่อสร้างกระแส “คลื่นลูกใหม่” แห่งวงการภาพยนตร์เวียดนาม
 
Di มีผลงานภาพยนตร์สั้น 2 เรื่อง ได้แก่ Lotus (2005) และ When I am 20 (2006) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เวียดนามเรื่องแรกที่ได้เข้าประกวดในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ในปี 2008 ในปี 2007 เขาเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Adrift (กำกับโดย Bui Thac Chuyen) และได้รับรางวัล FIPRESCI Prize จากงาน Venice IFF 2009 นอกจากนี้ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบทภาพยนตร์ดีเด่นในงานเอเชียฟิล์มอวอร์ด ปี 2010
 
Don't Be Afraid เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาเป็นทั้งโปรดิวเซอร์ คนเขียนบท และผู้กำกับ และผ่านการคัดเลือกจากการนำเสนอโครงการในงาน Cannes L'ATELIER 2008 ทำให้เขาได้รับเงินสนับสนุนจาก World Cinema Fund (Berlin IFF 2008) และ Fond SUD and Arte Cinema 2009 ในปี 2010 ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวคว้า 2 รางวัลจากงานสัปดาห์นักวิจารณ์ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ และได้รับรางวัลจากงานเทศกาลภาพยนตร์ต่าง ๆ เช่น แวนคูเวอร์ ฮ่องกง และสตอกโฮล์ม
 
ภาพยนตร์เรื่องที่สอง Big Father, Small Father and Other Stories ฉายรอบปฐมทัศน์โลกในการประกวดที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน 2015 หลังจากนั้น Di รับตำแหน่งโปรดิวเซอร์ในภาพยนตร์เรื่อง Cu Li Never Cries ของผู้กำกับ Pham Ngoc Lan โปรเจกต์ดังกล่าวผ่านการคัดเลือกโดย Cannes’ L’Atelier 2017 และได้รับเงินสนับสนุนจากหลายประเทศทั่วโลก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างเตรียมตัวถ่ายทำ
 
นอกจากการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์อิสระ Di ยังเป็นอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ และวิชาการเขียนบทที่มหาวิทยาลัยฮานอย และเป็นผู้จัดงานประชุมแห่งฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นงานประชุมนานาชาติด้านภาพยตร์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม

Müge Demir

ประวัติและผลงาน

Müge Demir คัดเลือกหนังจากหลายประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย เมียนมา และลาว

หลังจบการศึกษาด้านรัสเซียและยุโรปศึกษา เธอได้ทำโครงการเกี่ยวกับสื่อสาธารณะ การสื่อสาร และวัฒนธรรม หลายโครงการ ในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติรอตเตอร์ดัม

ปี 2015 และ 2016  เธอเป็นผู้ประสานงานโครงการ Brave Talk ซึ่งเป็นโปรแกรมพิเศษที่ฉายภาพยนตร์ที่วิพากษ์ประเด็นเรื่องความไม่ยุติธรรมในสังคม

image

Anucha Boonyawatana

image

ประวัติและผลงาน

อนุชาเป็นผู้กำกับที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ด้วยการผสมผสานภาพยนตร์เนื้อหาเกี่ยวกับเกย์ที่มีความละเมียดละไมเข้ากับความมืดหม่น รุนแรง อนุชาจบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาพยนตร์วิทยานิพนธ์ของอนุชาเรื่อง “ตามสายน้ำ” เป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานเรื่องราวความรักของเกย์เข้ากับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้รับรางวัลวิจิตรมาตรา จาก Thai Short Film and Video Festival และรางวัล Young Thai Artist Award ได้รับเลือกให้ฉายในเทศกาลภาพยนตร์ในเอเชียและยุโรป เช่น Hong Kong Independent Short Film and Video Award นอกจากนี้ ยังได้รับการจัดจำหน่ายในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา

อนุชาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทจีโมทีฟ โปรดักชั่น จำกัด ผู้ผลิตสื่อโฆษณาชั้นนำ อนุชายังได้ร่วมงานกับองค์การยูเนสโก และ Thai American Public Health Agency สร้างภาพยนตร์ออนไลน์เรื่อง Love Audition 1 และ 2 เพื่อสร้างเสริมสุขภาพในหมู่เกย์วัยรุ่น

ในปี 2017 มะลิลา (Malila: The Farewell Flower) ผลงานภาพยนตร์เรื่องที่สองของอนุชา ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Kim Jiseok Award จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน รางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติสิงคโปร์ และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเกรละ อินเดีย รวมทั้งรางวัล NETPAC Award จากเทศกาลภาพยนตร์ม้าทองคำไต้หวัน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้